Final Fantasy 8 สัจจะพันธะสัญญา แห่งช่วงเวลาอันเป็นนิรันดร์

เรื่องราวความรักรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก นับว่าเป็นอมตะนิรันดร์กาลเป็นอย่างมาก มีการผูกและ เชื่อมโยงเรื่องราวความรักในครั้งนี้ด้วยความไม่สมหวังระหว่างรุ่นพ่อรุ่นแม่ เพื่อมาให้รุ่นลูกได้สืบทอดต่อความรักนั้น Laguna ซึ่งเป็นทหารของกัลป์บาเดีย ถูกส่งไปทำภารกิจภายใน Deling City ซึ่งภารกิจนั้น ได้พบกับนักร้องคนหนึ่งที่ชื่อว่า Julia ในคาเฟ่ ทำให้เกิดเพลงที่กลายเป็นบทเพลงตำนานแห่งความรักที่ได้ยินไปทั่วโลก คือ Eyes on me โดยในใจความของเนื้อเพลงนั้นได้กล่าวว่า ทุกครั้งที่ฉันร้องเพลงนี้ จะเห็นเธอที่มุมหนึ่งของร้านเล็กๆนี้เสมอ และ ให้เป็นเรื่องจริงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน บลา บลา บลา… Laguna เป็นทหารกัลบาเดียที่ต่อสู้ในสงครามจอมเวทย์ และ ตัวของเขาเองนั้นเป้นทหารแนวหน้า หลังจากนั้นเกิดเหตุทำให้ Laguna ต้องออกเดินทางไปทำสงครามที่ยาวนาน โดย Laguna ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาจูเลียเมื่อสงครามจบ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด มีข่าวการสาบสูญของ Laguna จนทำให้ Julia คิดว่า Laguna ตายไปในสนามรบแล้ว จึงแต่งงานกับนายพลคาราเวย์ จากนั้นมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ Rinoa การบาดเจ็บของ Laguna สาหัสเป็นเวลานานจนต้องพักรักษาตัวที่ต่างเมืองใน หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ Wild Hill ทำให้ไม่สามารถกลับไปที่ Deling City ในเร็ววันได้ ภายหลังจากการบาดเจ็บในครั้งนั้นที่ต้องพักรักษาตัวนานโดยมี Rain เป็นผู้ดูแลรักษาปฐมพยาบาลจนหายดี หลังจากนั้นไม่นาน Laguna ทราบถึงข่าวการแต่งงานของ Julia กับนายพลคาราเวย์ Laguna จึงตัดสินใจปักหลักอยู่ที่ Wild Hill และได้แต่งงานกับ Rain จากนั้นได้รับเด็กสาวคนหนึ่งชื่อ Ellone เป็นลูกบุญธรรม แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบเช่นนั้น หลังจาก Laguna ขอ Rain แต่งงาน ความฝันเขา คือ ผจญภัยในโลกกว้าง เป็นนักข่าวเดินทางขีดๆเขียนๆเรื่องราวต่างๆ เลยชวน Kiros และ Ward เดินทางไปด้วยกัน ในขณะที่กำลังเดินทาง ผจญภัยไปในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านของชนเผ่า Shumi และพบกับ Edea ขณะนั้นจึงได้ทราบข่าวว่า Ellone ถูกจับตัวไปโดย Adel จอมเวทย์ที่ร้ายกาจที่สุดในประวัตศาสตร์เอสทาร์ ซึ่งในช่วงเวลานั้น กลับกลายเป็นว่าคือการพบกันครั้งสุดท้ายระหว่าง Laguna และ Rain ที่กำลังตั้งท้อง โดยที่ไม่รู้ว่าการพบครั้งนี้จะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก

Laguna และพรรคพวกได้ลักลอบเข้าไปยังประเทศเอสทาร์ เพื่อช่วยเหลือ Ellone จากการที่จะนำไปเป็นร่างทรงแม่มดคนต่อไป ซึ่งในการช่วยเหลือครั้งนี้ Laguna จำเป็นต้องรับตำแหน่งหน้าที่ประธานาธิบดีเมืองเอสทาร์ เพื่อฟื้นฟูเมือง ไม่ได้กลับไปหา Rain ที่กำลังป่วยอยู่ และ เขาได้ส่ง Ellone ไปยังหมู่บ้าน Will Hill ซึ่งหารู้ไม่ว่า Rain ในช่วงเวลานั้นกำลังจะหมดลมหายใจจากการคลอดลูกชาย ชื่อ Squall หลังจาก Rain เสียชีวิตไม่นานเท่าไรนัก Ellone และ Squall ได้เข้าไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าของ Edea ซึ่งหลังจากนี้เองที่ Edea สัมผัสได้ถึงพลังของแม่มดร้าย Artemisia ที่คอยชักใยบ่งการจอมเวทย์ Adel อยู่ ทำให้ Edea กับ Cid ร่วมกันก่อตั้งหน่วย SEED ขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับ Artemisia โดยบอกเรื่องราวกับสามีของเธอว่า อีกไม่นานเธอจะถูกครอบงำโดยแม่มด Artemisia สมาชิกที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถช่วยได้ คือ เด็กในบ้านเด็กกำพร้า และ ผู้ที่จะถูกครอบงำต่อจากเธอถ้าหากเธอตาย หรือ หลุดจากการควบคุมได้ คือ Ellone และให้กลุ่ม SEED พาตัวเธอไปโดยไม่บอกว่าซ่อนไว้ที่ไหน จากนั้นก็ลบความทรงจำในบ้านของเด็กกำพร้าทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องราวเหล่านี้รั่วไหลออกไป ซึ่งความสามารถของ Ellone คือการส่งจิตของคนย้อนกลับไปในอดีต ในเหตุการณ์นี้ Ellone จึงได้พยายามส่งจิตของ Squall ย้อนกลับไปในช่วงต่างๆของ Laguna เพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ให้ Laguna ได้บอกลากับ Rain แต่ทุกครั้งที่ย้อนกลับไปก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์นั้นๆ แต่การส่ง Squall ไปในทุกๆครั้งยังเป็นการช่วยให้ Squall ฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับเธออีกด้วย ในกรณีที่ Squall ลืมเรื่องของเธอไปจนหมดสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความรักของคนรุ่นพ่อ-แม่ที่ไม่สมหวังนั้น กับส่งผลถึงรุ่นลูกโดยไม่ได้คาดคิด

สิ่งพิเศษสุดในเกมที่ถูกสร้างมาโดยเฉพาะ

ที่มาของเพลง Eye on Me ขับร้องโดย เฟย์ หว่อง หลายคนสงสัยถึง เพลงนี้ว่าทำไมถึงสื่อความหมาย และ กินใจต่อคนทั่วโลกที่ได้เล่น Final Fantasy 8 เพราะ Theme หลักของเกมภาคนี้ คือ ความรักจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ที่มาคร่าวๆของเพลงนี้อย่างที่ทราบกันแล้วว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ Laguna พบกับ Julia ใน Club แห่งหนึ่งที่ Deling City และ ครั้งนั้นเป็นรักที่ไม่สมหวังของ Laguna ที่ไปสงครามและไม่ได้กลับไปหา Julia

หากสังเกต จากบทสนทนาตอนที่  Laguna อยู่ในห้องกับ Julia (คาดว่าน่าจะเรียบร้อยแล้ว) จะมีคำพูดที่คุยกันแปลได้ประมาณนี้

Julia: ขอบคุณนะที่มา

Laguna: ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ

Julia: นั่งก่อนสิค่ะ คุณมาฟังฉันเล่น piano ทุกครั้งเลย

Laguna: นี่คุณเห็นผมตลอดเลยเหรอ

Julia:  ฉันเห็นคุณยิ้มเสมอเวลาที่มองฉัน ฉันชอบสายตาของคุณที่มองมา มันไม่เหมือนของคนอื่นที่ มันทำให้รู้สึกอบอุ่นเวลาที่มอง

ความหมายของชื่อเพลง Eye on Me คือ เหตุการณ์ในครั้งนี้ และ เนื้อความในเพลงได้ ถูกถักทอต่อออกมา โดยเนื้อเพลงนั้น แต่งขึ้นเพื่อ Laguna โดยเฉพาะ ซึ่ง

Whenever sang my songs

On the stage On my own

Whenever said my words

Wishing they would be heard

I saw you smilling at me

Was it real or just my fantasy

You’d always be there in the corner of this tiny little bar.

ซึ่งเนื้อเพลงในช่วงนี้จะกล่าวถึง การที่ Laguna มานั่งที่บาร์ เพื่อฟังเพลง และ ยิ้มให้กับ Julia ที่มุมๆหนึ่งในบาร์เล็กๆแห่งนี้

ความรักของลากูน่านั้นมีทั้งที่ผิดหวัง และก็มีทั้งความรักที่สมหวัง แต่ทุกชีวิตย่อมมีการลาจาก Final Fantasy 8 แฝงไว้ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเกมแนว RPG ที่อบอวลไปด้วยความรัก และ มิตรภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ความรักในครั้งนี้ ตอนจบของเกม Final Fantasy 8 จะเปิดเพลง Eye on Me อีกครั้ง โดยเป็นการพบกันระหว่าง Squall และ Rinoa เสมือนกับว่าคำสัญญาของ Laguna ได้ส่งต่อมาจนรุ่นลูกว่าจะกลับมาพบ Julia อีกครั้ง เท่ากับว่าสายเลือดของทั้งสองฝ่ายมาพบกันแทน

ความรักอีกหนึ่งอย่างของ Squall  กับ Ellone คือ สายสัมพันธ์ หลังจากที่ Rain ตายลงตั้งแต่ที่ Squall ยังจำความไม่ได้พร้อมกับการถูกพามายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมๆกับ Ellone สายสัมพันธ์สุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่นั่นคือ พี่สาว ความทรงจำหนึ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งไว้อย่างสุดแรงเกิด ฟางเส้นสุดท้ายของความทรงจำเพื่อยืนยันการมีตัวตนของเขา แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ Squall เศร้าเสียใจ การตามล่าเด็กสาวเพื่อทำการทดลอง ทำให้ Ellone ต้องไปอยู่ที่อื่น ความผิดหวังที่เกิดขึ้นการพร่ำหาพี่สาวคนสำคัญเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกวัน ทุกคืน แต่ไม่ได้รับเสียงตอบรับกลับมาจาก Ellone จนกว่าจะถึงวันที่เข้มแข็งได้ด้วยตัวเอง จนถึงบทส่งท้ายก็คือความรักระหว่างพี่กับน้องที่ต้องคอยดูแลกันตลอดไป แม้ว่าจะจำได้บ้างไม่ได้บ้างของ Squall ถึงแม้ว่าจำยังจำไม่ได้แต่สายสัมพันธ์พี่น้องยังคงอยู่ ความห่วงใยที่ไม่จางหาย ทำให้ Squall เดินทางไปช่วยเหลือ Ellone

สรุป Final Fantasy 8  เรียกได้ว่าถ้าเป็นบทละครก็น้ำเน่าหลังข่าวก็ว่าได้ บางคนบอกว่าเนื้อเรื่องไม่ดี สู้ภาคอื่นๆไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวกลับมองว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้ สำหรับคนที่เสพและใส่ใจกับมัน จะมองได้ว่าเขาใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อที่จะสื่อออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องและบทเพลง ที่คิดคำนานมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่คนเล่นบางส่วนกลับไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อ โดยอ้างว่าตัดฉากไปมา เวียนหัวไม่เข้าใจ Timeline ของภาคนี้ ถ้าหากมองว่าเนื้อเรื่องโดยรวมนับว่ายอดเยี่ยมมากที่สุดภาคหนึ่งในบรรดา Series Final Fantasy เลยทีเดียว การผนวกเนื้อเรื่องกับเพลงเข้าไว้ด้วยกันและสื่อถึงความรักนั้น เรียกได้ว่าถูกจัดทำออกมาได้อย่างลงตัว